โดย ภญ. ชุติวรรณ ศรีศักดิ์หิรัญ
เภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส
หากนึกถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน แน่นอนต้องนึกถึงวิตามินซีเป็นอันดับแรกใช่ไหมคะ นอกจากเรื่องภูมิคุ้มกัน ช่วยให้หวัดหายเร็วแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวด้วย แต่ในท้องตลาดก็มีรูปแบบวิตามินซีหลากหลาย แต่ละแบบมีข้อดีอย่างไร เหมาะกับใคร ไปดูกันเลยค่ะ
วิตามินซีชนิดเม็ดรับประทาน
ซึ่งจะให้วิตามินซีปริมาณค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่จะให้ 500 - 1,000 มิลลิกรัม มักผสมไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเรื่องการดูดซึมวิตามินซีได้ดียิ่งขึ้น รูปแบบนี้จะสะดวกรับประทาน และรับประทานแค่ 1 - 2 เม็ดต่อวัน ก็เพียงพอแล้ว แต่หากใครมีปัญหาในเรื่องของภูมิแพ้ ไซนัส หรือมีปัญหาของโรคกระเพาะ สามารถเลือกรูปแบบที่ค่อยๆ ปลดปล่อย Buffered หรือ sustained release ซึ่งจะได้วิตามินซีที่ค่อยๆ ปลดปล่อยในร่างกายตลอดเวลาที่ออกฤทธิ์ และความเป็นกรดต่ำไม่ระคายกระเพาะอาหาร
วิตามินซีชนิดเม็ดอม หรือ เยลลี่
ให้ปริมาณวิตามินซีตั้งแต่ 25 - 500 มิลลิกรัม ซึ่งแบบอมนี้ เม็ดวิตามินซีจะค่อยๆ ละลาย รสชาติดี หรือแบบเยลลี่ก็สามารถรับประทานแบบเคี้ยวได้เลย แต่ระวังในเรื่องของฟันผุ เนื่องจากปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง โดยเฉพาะหากให้เด็กเล็กรับประทาน ควรจำกัดการรับประทาน และบ้วนปาก หรือแปรงฟันหลังรับประทานทุกครั้ง
วิตามินซีชนิดเม็ดฟู่ละลายน้ำ หรือผงชงละลายน้ำ
เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบรับประทานแบบเม็ด รสชาติดี ให้ความสดชื่น ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ไว ส่วนใหญ่ให้วิตามินซี 500 – 1,000 มิลลิกรัม ต่อเม็ด
วิตามินซีชนิดน้ำ
ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบอาหาร เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมดื่ม ซึ่งปริมาณวิตามินซีจะไม่ได้สูงมาก จะใช้สำหรับเสริมเพื่อให้ได้รับวิตามินซีให้เพียงพอในแต่ะละวัน ควรระวังในเรื่องของน้ำตาลที่มากับเครื่องดื่ม
นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบของอะเซโรล่าเชอร์รี่ ซึ่งเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซี และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะแนะนำการรับประทานอะเซโรล่าเชอร์รี่ เพื่อบำรุงผิวพรรณ มากกว่าเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด เนื่องจากปริมาณวิตามินซีไม่สูงมากค่ะ
ทราบรูปแบบของวิตามินซีแล้ว ก็สามารถเลือกรับประทานให้เหมาะสมกับตนเองได้เลยนะคะ แนะนำการรับประทานวิตามินซี หลังอาหาร หลีกเลี่ยงช่วงที่ท้องว่าง เพื่อลดอาการระคายเคืองกระเพาะค่ะ