น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล หรือ แอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar) มีการใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการดูแลสุขภาพ ทั้งในรูปแบบของน้ำแอปเปิลไซเดอร์หรือเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย แอปเปิลไซเดอร์จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติ
แอปเปิลไซเดอร์ ได้จากการหมักน้ำแอปเปิลโดยผ่านกระบวนการหมัก 2 ขั้นตอน คือ หมักน้ำตาลธรรมชาติจากแอปเปิลเป็นแอลกอฮอล์แล้วเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นกรดอะซิติก (Acetic Acid) ซึ่งกรดอะซิติก เป็นสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในการดูแลสุขภาพ
ประโยชน์ของแอปเปิลไซเดอร์
1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด – มีการศึกษาพบว่าการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ในระหว่าง มื้ออาหารที่มีแป้งหรือน้ำตาล ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินทำงานดีขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
2. ช่วยลดน้ำหนัก – มีการศึกษาพบว่ากรดอะซิติกช่วยยับยั้งความอยากอาหาร รู้สึกอิ่มไวขึ้น เพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมัน ลดการสะสมไขมันในร่างกาย
3. ลดระดับคอเลสเตอรอล - มีการศึกษาว่าการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์ ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์
4. ช่วยระบบการย่อยอาหาร - จากกระบวนการหมักทำให้เกิดจุลินทรีย์ธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
ข้อควรระวังในการรับประทานแอปเปิลไซเดอร์
เนื่องจากแอปเปิลไซเดอร์มีความเป็นกรด จึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินอาหารได้หากรับประทานในปริมาณที่เข้มข้นหรือมากเกินไป ควรระวังในผู้ป่วยโรคไตหรือโรคกระเพาะอาหาร รวมถึงในปริมาณที่เข้มข้นอาจทำลายเคลือบฟันทำให้เสียวฟันได้ ทั้งนี้ หากไม่ชอบกลิ่นหรือรสเปรี้ยวของแอปเปิลไซเดอร์ สามารถเลือกรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งปัจจุบันมีทั้งในรูปแบบ เม็ดกลืน กัมมี่เม็ดเคี้ยวหรือผงชงน้ำได้
References
1. Johnston, C. S., Kim, C. M., & Buller, A. J. (2004). Vinegar improves insulin sensitivity to a high-carbohydrate meal in subjects with insulin resistance or type 2 diabetes. Diabetes Care, 27(1), 281–282. https://doi.org/10.2337/diacare.27.1.281
2. Kondo, T., Kishi, M., Fushimi, T., Ugajin, S., & Kaga, T. (2009). Vinegar intake reduces body weight, body fat mass, and serum triglyceride levels in obese Japanese subjects. Bioscience, Biotechnology, and Biochemistry, 73(8), 1837–1843. https://doi.org/10.1271/bbb.90231
อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่
Website: https://exta.co.th/
LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)
Instagram: instagram.com/extaplus
YouTube: youtube.com/eXtaHealthBeauty
หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพและการใช้ยาสามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ